ทางเลือกระบบทำความเย็นสำหรับ ห้องเย็น ของคุณ

ห้องเย็น ในอดีตจนถึงปัจุบันนั้น  ล้วนจำเป็นกับวงการอุตสาหกรรมบ้านเราเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นชนิดใดก็ตามที่ใช้ในโรงงาน แต่ที่ทุกท่านอาจยังไม่ทราบดีนัก คือเรื่องของระบบทำความเย็น ในรูปแบบที่หลากหลาย และแตกต่างกันออกไป ซึ่งวันนี้ทีมงานจะมาเปรียบเทียบ ระหว่าง การใช้คอล์ยกระจายลมเย็น กับ คอล์ยใส้ไก่ ว่ามีความแตกต่างอย่างไร โดยมีน้ำยา R22 กับ R717 เป็นหลัก เพื่อให้ทุกท่านได้พิจารณาเป็นทางเลือก สำหรับการใช้งานตามวัตถุประสงค์ได้อย่างตรงความต้องการมากที่สุดครับ

ข้อดี R-22 (ฟรีออน) ใช้คอล์ยกระจายลมเย็น

1. ปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน เพราะน้ำยาไม่มีการติดไฟ ไม่ระเบิด และไม่เป็นพิษต่อคน
2. ดูแลรักษาง่ายไม่ต้องตรวจเช็คเป็นประจำทุกวัน
3. ราคาถูกเมื่อเปรียบเทียบที่ปริมาณทำความเย็น และอุณหภูมิที่เท่ากัน
4. ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย
5. เนื้อที่ผ่านการฟรีซมีคุณภาพดี เพราะความคุมการสูญเสียน้ำได้
6. สามารถปิดห้อง Blast เมื่อไม่มีเนื้อแช่ฟรีซ
7. ใช้พลังงานในการละลายน้ำแข็งน้อย
8. โครงสร้างคอล์ยกระจายลมเย็น ทำจากอลูมิเนียม ทำให้ไม่เกิดสนิม
9. มีพื้นที่ในการเก็บเนื้อสัตว์มากขึ้น
10. ช่วยประหยัดค่าไฟได้มากกว่า เพราะมีประสิทธิภาพทำความร้อนได้ดี เนื่องจากใช้เอ็กแพนชั่นวาล์วฉีดน้ำยาใส่คอล์ยกระจายลมเย็น
11. ง่ายต่อการซ่อมแซม เคลื่อนย้าย และต่อเติม
12. ใช้ปริมาณน้ำยาน้อยกว่า
13. ใช้คอมเพรสเซอร์ๆได้หลายตัว เมื่อตัวใดตัวหนึ่งเกิดเสีย ยังมีตัวอื่นที่สามารถเลี้ยงอุณหภูมิไว้
14. ไม่ต้องขออนุญาตจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ถ้าขนาดของแรงม้าไม่เกินตามที่กำหนด
15. สามารถระบายความร้อนด้วยอากาศหรือน้ำได้
16. บริษัทชั้นนำที่ได้มาตรฐาน ลืเอกใช้ระบบคอล์ยกระจายลมเย็น หรือเปลี่ยนจากระบบน้ำยาแอมโมเนียคอล์ยใส้ไก่ เป็น คอล์ยกระจายลมเย็น

ข้อด้อย R-717 (แอมโมเนีย) ใช้คอล์ยใส้ไก่

1. อันตราย เพราะมีความเป็นพิษ ไวไฟ และอาจทำให้เกิดระเบิดได้ ถ้ามีส่วนผสมกับอากาศที่พอเหมาะ
2. ต้องมีทีมช่างตรวจเช็คทุกวัน เพื่อควบคุมระบบแรงดันอย่างสม่ำเสมอ
3. ราคาแพงกว่ามาก
4. ใช้เทคโนโลยีที่ล้าสมัย เนื่องจากปัจจุบันโรงงานส่วนใหญ่ ได้หันมาเลือกใช้คอล์ยกระจายลมเย็นซะส่วนมาก
5. เนื้อที่สำหรับการฟรีซมีคุณภาพสู้ R-22 ไม่ได้
6. ต้องเปิดตลอด เพราะเนื้อจะถูกดึงความร้อนออก
7. ใช้พลังงานในการละลายน้ำแข็งมากกว่าปกติ
8. โครงสร้างนั้น ทำมาจากท่อประปา มีโอกาสเป็นสนิม และอันตรายต่อเนื้อสัตว์
9. มีเนื้อที่ในการเก็บเนื้อสัตว์น้อยกว่า
10. มีประสิทธิภาพการถ่ายเทความร้อนต่ำ เพราะใช้การระเหยของตัวน้ำยา
11. ไม่สามารถทำการเคลื่อนย้ายได้
12. ใช้ปริมาณน้ำยามากกว่า เพราะน้ำยาต้องแช่อยู่ในคอล์ยใส้ไก่
13. ใช้คอมเพรสเซอร์ตัวใหญ่เพียงตัวเดียว เวลาคอมเพรสเซอร์ ระบบจะหยุดทั้งหมด
14. ต้องขออนุญาตจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม เพราะเป็นวัตถุมีพิษ ต้องมีวิศวกรเซ็นอนุญาต
15. ต้องใช้ระบบน้ำในการระบายความร้อนเท่านั้น

      เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับระบบทำความเย็น ที่เราได้นำมาเปรียบเทียบกันในวันนี้ เพื่อให้บางท่านได้ทราบ และนำไปปรับใช้ เนื่องจากระบบ ห้องเย็น นั้น มีหลากหลายให้เลือกตามการใช้งาน โดยมีความแตกต่างกันออกไป หวังว่าทุกท่านจะได้ประโยชน์ จากบทความนี้ไม่มากก็น้อยนะครับ ขอบคุณทุกท่านสำหรับการติดตาม บทความต่อไปเราจะมาให้สาระดีๆอีกเช่นเคย

Cr. ทีมงาน อินเตอร์คูลลิ่ง ดีไซน์
คิดถึงห้องเย็น………….คิดถึงเรา

สนใจซื้อห้องเย็นติดต่อได้ที่ www.intercooling.co.th

หรือแอดไลน์ supamitk ปรึกษาได้โดยตรงเลยครับ